เรียนมาเพื่อทราบ

666เข้าสู่เว็บไซต์สถานีตำรวจภูธรพาน กรุณาคลิกที่นี่
http://phan.chiangrai.police.go.th/

โพสท์ใน ไม่มีหมวดหมู่ | ใส่ความเห็น

รับมอบร่มสนามป้อมยามตำรวจเพื่อใช้ในกิจการหน่วยบริการประชาชนตำบลแม่เย็น (๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๓)

เมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ เวลาประมาณ ๑๐.๐๐ น.ตัวแทนบริษัทไทยประกันชีวิต จำกัด สาขาเชียงราย ฝ่าย ๓๖ ได้มอบร่มสนามป้อมยามตำรวจให้แก่หน่วยบริการประชาชนตำบลแม่เย็นจำนวน ๑ คันเพื่อใช้ในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยบริการฯ โดย ร.ต.ท.รุ่ง สุวรรณฉัตรศิริ รอง สวป.เป็นตัวแทน สภ.พานในการรับมอบ

                                                                                                                                                            ในนามของสถานีตำรวจภูธรพาน  ขอขอบพระคุณบริษัทไทยประกันชีวิต จำกัด สาขาเชียงราย ฝ่าย ๓๖ มา ณ โอกาสนี้เป็นอย่างสูงและจะนำอุปกรณ์ที่ท่านกรุณามอบให้นี้ไปใช้ตามวัตถุ ประสงค์ต่อไป

โพสท์ใน ไม่มีหมวดหมู่ | ใส่ความเห็น

ร่วมพิธีวันปิยมหาราช (๒๓ ตุลาคม ๒๕๕๓)

วันนี้ (๒๓ ตุลาคม ๒๕๕๓)  พ.ต.อ.ไพรัช  คุ้มล้วนล้อม  ผกก. สภ.พาน พร้อมข้าราชการตำรวจสถานีตำรวจภูธรพาน ร่วมพิธีเนื่องในวันปิยมหาราช ณ ที่ว่าการอำเภอพาน จังหวัดเชียงราย

  

  

  

  

  
ภาพประกอบกรุณาคลิก ที่นี่

โพสท์ใน ไม่มีหมวดหมู่ | ใส่ความเห็น

บริจาคโลหิต (๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๓)

วันนี้(๒๑ ต.ค.๒๕๕๓)ตั้งแต่เวลาประมาณ ๐๙.๐๐ น. ข้าราชการตำรวจ สภ.พาน,แม่อ้อ,ป่าแดด,แม่สรวย,เวียงป่าเป้า,แม่เจดีย์ ทำการบริจาคโลหิตเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่เพื่อพสกนิกรชาวไทยอย่างสุดจะพรรณาในช่วงที่พระองค์ยังทรงมีพระชนมชีพอยู่ โดยเฉพาะพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อข้าราชการตำรวจอย่างล้นพ้นหาที่สุดมิได้ รวมทั้งกิจกรรมนี้เป็น ๑ ในโครงการ ๑ ในล้านความดีตำรวจเชียงรายเทิดไท้องค์ราชันด้วย

การบริจาคโลหิตครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากสำนักงานเทศบาลตำบลเมืองพานที่อนุเคราะห์อาคารหอประชุมฯ เป็นสถานที่ดำเนินการโดยมีเจ้าหน้าที่จากเหล่ากาชาดอำเภอพานและอำเภอเมืองพะเยามารับบริจาค
สำหรับจำนวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาร่วมบริจาคนั้นมีดังนี้
๑. สภ.พาน จำนวน ๘๗ คน
๒. สภ.ป่าแดด จำนวน ๔๒ คน
๓. สภ.แม่สรวย จำนวน ๖๕ คน
๔. สภ.เวียงป่าเป้า จำนวน ๔๙ คน
๕. สภ.แม่อ้อ จำนวน ๒๖ คน
๖. สภ.แม่เจดีย์ จำนวน ๓๐ คน
รวมทั้งสิ้น ๓๑๕ คน โดยการบริจาคนั้นได้โลหิตแต่ละคนประมาณ ๓๐๐ ซีซี รวมทั้งสิ้นประมาณ ๙๔,๕๐๐ ซีซี

       

ภาพประกอบกิจกรรมกรุณาคลิก ที่นี่

โพสท์ใน ไม่มีหมวดหมู่ | ใส่ความเห็น

มอบกระเช้าของขวัญเป็นกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ (๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๓)

วันนี้เวลาประมาณ ๑๑.๐๐ น.หลังจากเสร็จสิ้นพิธีเนื่องในวันตำรวจประจำปี พ.ศ.๒๕๕๓ แล้ว พ.ต.อ.ไพรัช คุ้มล้วนล้อม ผกก.สภ.พาน,พ.ต.ท.อนุพนธ์ สนิท รอง ผกก.ป.,พ.ต.ท.สุพจน์ มัจฉา สวป และ พ.ต.ต.หญิงวันวิสาข์ เจียมวิจักษณ์ สว.อำนวยการ ได้เดินทางไปมอบกระเช้าของขวัญเพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่แก่ ด.ต.ศักดิ์ จิตนารินทร์ เจ้าหน้าที่สายตรวจรถจักรยานยนต์ สภ.พานที่บ้านพักหมู่ที่ ๒๐ ตำบลเมืองพาน โดยข้าราชการตำรวจผู้นี้ประสบอุบัติเหตุได้รับอันตรายสาหัสขณะปฏิบัติหน้าที่สายตรวจเมื่อประมาณ ๒ เดือนเศษที่ผ่านมา ขณะนี้อาการดีขึ้นเป็นลำดับและแพทย์อนุญาตให้กลับมาพักผ่อนที่บ้านพักได้

 

โพสท์ใน ไม่มีหมวดหมู่ | ใส่ความเห็น

วันตำรวจ (๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๓)

วันนี้สถานีตำรวจภูธรพานได้จัดพิธีเนื่องในวันตำรวจประจำปี ๒๕๕๓ ขึ้น ณ อาคารที่ทำการสถานีโดยมีข้าราชการตำรวจและแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมพิธีประมาณ ๒๐๐ คน

พ.ต.อ.ไพรัช คุ้มล้วนล้อม ผกก.สภ.พานกล่าวนำคำปฏิญาณตน , อุดมคติตำรวจ และอ่านสารของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี) เนื่องในวันตำรวจประจำปี ๒๕๕๓
   

   

 หลังจากนั้นสักการะพระภูมิเจ้าที่

  

เวลาประมาณ ๐๙.๐๐น.- ๑๐.๓๐น.ทำพิธีทางศาสนา

  

ภาพกิจกรรมวันตำรวจกรุณาคลิก ที่นี่                   

โพสท์ใน ไม่มีหมวดหมู่ | ใส่ความเห็น

แข่งขันกีฬาสีเนื่องในวันตำรวจประจำปี ๒๕๕๓ (๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๓)

วันนี้เวลาประมาณ ๑๔.๓๐ น. สภ.พานได้จัดให้มีการแข่งขันกีฬาสีซึ่งเป็นกีฬาภายในของเราขึ้น ณ สนามกีฬาสำนักงานเทศบาลตำบลเมืองพานเนื่องในวันตำรวจประจำปี ๒๕๕๒ ตามแผนพัฒนาสำนักงานตำรวจแห่งชาติประจำปี ๒๕๕๑-๒๕๕๔ เพื่อให้ข้าราชการตำรวจมีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงและพร้อมที่จะให้บริการพี่น้องประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ



การแข่งขันครั้งนี้เราแบ่งนักกีฬาออกเป็น ๔ สีประกอบด้วยสีส้ม,ดำ,เขียว,ขาว โดยจัดประเภทกีฬาออกเป็น ๓ ประเภทดังนี

๑.ฟุตบอล ๗ คน

   

 ๒.เปตอง

   

๓.เซปักตะกร้อ

   

ภาพประกอบการแข่งขันกรุณาคลิก ที่นี่

โพสท์ใน ไม่มีหมวดหมู่ | ใส่ความเห็น

ข้าราชการตำรวจ สภ.พาน ร่วมใจกันพัฒนาวัดพระธาตุจอมแว่เนื่องในวันตำรวจ(๗ต.ค.๒๕๕๓)

เมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๓ ข้าราชการตำรวจสถานีตำรวจภูธรพาน นำโดย พ.ต.อ.ไพรัช  คุ้มล้วนล้อม ผกก.สภ.พาน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนประมาณ ๑๕๐ นายได้ร่วมกันพัฒนาวัดพระธาตุจอมแว่ ตำบลเมืองพาน  อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย เป็นกิจกรรมเนื่องในวันตำรวจ

รูปภาพกิจกรรมการพัฒนา กรุณาคลิก ที่นี่

โพสท์ใน ไม่มีหมวดหมู่ | 1 ความเห็น

แนวคิด,อุดมการณ์ในการปฏิบัติหน้าที่ราชการของน้องๆ ตำรวจฝึกงาน สภ.พาน (๓๐ กันยายน ๒๕๕๓)

ผ่านพ้นกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับสำหรับการฝึกหัดปฏิบัติราชการของน้องๆ ตำรวจ ๔ คนซึ่งสำเ้ร็จการศึกษาจากศูนย์อบรมตำรวจภูธรภาค ๕ และมาฝึกงานที่ สภ.พานของเรา โดยน้องๆ ทั้ง ๔ คนนี้ประกอบด้วย
๑. ส.ต.ต.ศุภวัฒน์ สุวรรณโณ
๒. ส.ต.ต.เทอดศักดิ์ ใจเที่ยง
๓. ส.ต.ต.พีระพงษ์ อุปจักร์
๔. ส.ต.ต.ปรีชาชัย ธรรมอนุสรณ์

การฝึกหัดปฏิบัติราชการของน้องๆ ทั้ง ๔ คนเริ่มตั้งแต่วันที่ ๒๐-๒๙ กันยายน ๒๕๕๓ ซึ่งผมได้นำเรื่องราวต่างๆ มาเสนอให้ทราบเป็นระยะว่าแต่ละวันนั้นน้องๆ เขาฝึกงานอะไรบ้าง

 

 
วันนี้ผมขอนำเสนอแนวคิด,อุดมการณ์ของน้องๆ ทั้่ง ๔ คนในการปฏิบัติหน้าที่ราชการตำรวจตามที่ผมให้เขาเขียนความในใจของแต่ละคนว่ามีอย่างไรบ้าง ดูแล้วน่าสนใจมากเลยทีเดียว รายละเ้อียดของแต่ละคนเป็นอย่างไรติดตามได้ด้านล่างนี้ครับ

ส.ต.ต.ศุภวัฒน์ สุวรรณโณ

แนวคิด อุดมการณ์ จากบุคคลที่กระผมได้ให้ความเคารพนับถือและได้ใกล้ชิดมากที่สุดท่านแรกสารวัตปราบปราม สภ. พาน สุพจน์ มัจฉา ท่านได้ให้แนวคิดในการปฏิบัติงานหลายเรื่อง เรื่องแรกท่านว่าที่เราจะเข้าถึงชาวบ้าน ประชาชนได้นั้นเราจะต้องไม่เป็นคนปากหนัก คือต้องรู้จักทักทายผู้คนด้วยความเป็นมิตรและใช้ถ้อยคำที่ฟังแล้วดูเป็นกันเองไม่ถือเนื้อถือตัวเป็นการสร้างมวลชน

 
อีกท่านหนึ่งคือ ร้อยตำรวจโท รุ่ง สุวรรณฉัตรศิริ ท่านให้แนวคิดกับกระผมว่าในการทำงาน “การทำงานต้องเอาทีมเป็นหลัก ต้องมีการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับผู้ร่วมงานอย่างคำสุภาษิตที่ว่า นกต้องมีขน คนต้องมีเพื่อน คือนกจะสวยงามจะบินได้สูงต้องมีขน

ส่วนแนวคิดอุดมการณ์ของข้าพเจ้าในการปฏิบัติงาน คือ การครอง 4 ประการ

การครองตน คือ ควรประพฤติตนในกรอบแบบแผนไม่สัมเลเทเมา ประพฤติตนเสมอต้นเสมอปลาย

การครองคน คือ ควรปฏิบัติตนต่อผู้อื่นทั้งผู้ที่อยู่เหนือตนคือผู้บังคับบัญชาและในระดับเดียวกัน รวมถึงผู้ใต้บังคับบัญชาให้เหมาะสม และประพฤติกับผู้นั้นเสมอต้นเสมอปลาย

การครองงาน คือ ควรตั้งมั่นในการทำงาน ใช้อำนาจหน้าที่ของตนในการปฏิบัติงานให้ถูกต้อง ปราศจากการเลือกปฏิบัติ ไม่เกี่ยงงาน ปฏิบัติงานรวดเร็วไม่กักตุนงาน

ครองเงิน คือ การวางแผนการใช้จ่ายอย่างรอบคอบ ไม่สุรุ่ยสุร่าย ประหยัด มัธยัสถ์

แนวคิดอุดมการณ์ที่ข้าพเจ้าจะใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมาจากอุดมคติตำรวจ

อดทนต่อความเจ็บใจ คือ หลักในการรู้จักข่มจิตใจตนเองไม่ให้ผันแปรไปตามสิ่งที่มากระทบต่อจิตใจ

       ไม่มักมากในลาภผล คือ สิ่งใดได้มาจากการการทำความผิดทางกฎหมายไม่ สมควรรับไว้ พอใจในสิ่งที่ตนมี

ดำรงตนในยุติธรรม คือ กระทำในสิ่งที่ถูกต้องปราศจากการเลือกปฏิบัติ

รักษาความไม่ประมาทเสมอชีวิต คือ การดำรงตนอย่างมีสติปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง รอบคอบให้เท่ากับชีวิตของตน

คติประจำใจ : "อุปสรรคไม่ได้มีไว้ข้าม แต่มีไว้ฝ่าฟัน"

ส.ต.ต.เทอดศักดิ์ ใจเที่ยง

เคารพเอื้อเฟื้อต่อหน้าที่ กรุณาปรานีต่อประชาชน อดทนต่อความเจ็บใจ ไม่หวั่นไหวต่อความยากลำบาก ไม่มักมากในลาภผล มุ่งบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชน ดำรงตนในยุติธรรมกระทำการด้วยปัญญา รักษาความไม่ประมาทเสมอชีวิต อุดมคติตำรวจก็ข้อล้วนแต่เป็นสิ่งที่กระผมสามารถนำไปยึดถือและใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างดียิ่งครับ ตำรวจทุกคนต้องมีอุดมการณ์ในการทำงานถึงจะเรียกว่าเป็นตำรวจมืออาชีพ และเราก็ต้องมีต้นแบบความคิด ต้นแบบการกระทำคือบุคคลตัวอย่างที่เราคิดว่า เราจะเป็นตำรวจแบบนี้ในวันข้างหน้าสำหรับผมแล้วผู้ที่เป็นต้นแบบหรือ Idol คือ สวป.สุพจน์ มัจฉา นี่แหละครับใช่เลยถ้าผมได้เป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่แล้วผมจะไม่ทำตัวเหนือประชาชนหรือผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชามาก เป็นคนที่ให้ความเป็นกันเองกับลูกน้องและประชาชน ไม่ปลกใจที่คนทั่วไปรู้จักท่าน และลูกน้องก็ไม่นินทราท่าน เป็นผู้ที่มีอัธยาศัยดี ผมก็อยากเป็นอย่างเป็นอย่างนี้ในอนาคตเป็นผู้ที่มีความสามารถหลายด้านใช้คอมพิวเตอร์ได้อย่างชำนาญแบบว่าคนหนุ่มบางคนอายไปเลยและท่านเป็นนักพูดที่ดีครับพูดจาได้ไพเราะมีเหตุผล มีไหวพริบในการพูด สังเกตจากการพูดออกอากาศที่สถานีวิทยุ เมื่อผมได้เห็นอย่างนี้แล้วก็กลับมาคิดและย้อนมองตัวเองวาทำได้อย่างนั้นไหมทำได้แค่ไหน ถ้ามีโอกาสจะทำไหมเผื่อว่าทำแล้วดีไหม ผมตอบว่า อยากทำได้ อยากเป็น อยากเก่งอยากเป็นอย่างที่ได้เห็นครับ และนี่แหละครับที่ผมคิดว่าตำรวจมืออาชีพและการปฏิบัติหน้าที่ของกระผมในภายภาคหน้าผมถือว่า การพิทักษ์รับใช้ประชาชนเป็นหน้าที่หลักของตำรวจและของผมครับ ความกรุณาปรานีที่เรามีต่อประชาชนต้องมีให้มากแต่ไม่ยากเพราะโดยส่วนตัวแล้วผมเป็นคนชอบช่วยเหลือคนอยู่แล้วครับ กรุณาทั้งกิริยา วาจา และใจ เมื่อเราทำหน้าที่ด้วยความให้เกียรติประชาชน และมากจากใจที่กรุณาด้วยที่เราจะบริการประชาชนได้ดี หัวใจของการทำงานของตำรวจผมคิดว่าคือประชาชนครับหากเราเข้าถึงประชาชนได้หากเราดึงเอาประชาชนมาเป็นพวกสามารถสร้างความไว้ใจให้ประชาชนได้เราก็จะประสบความสำเร็จในการปฏิบัติหน้าที่ครับ

ส.ต.ต.พีระพงษ์ อุปจักร์

การปฏิบัติงานในหน้าที่ตำรวจ เป็นงานที่ต้องอาศัยความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงานมาก เนื่องจากปัจจุบันสังคมพัฒนา รวดเร็วมาก เทคโนโลยีสมัยใหม่เจริญก้าวหน้าแทบตามไม่ทันประชาชนมีความรู้ความสามารถสูง ผู้ร้ายก็มีการพัฒนาศักยภาพของตัวเองขึ้น ตามเทคโนโลยี กระผมในฐานะที่เป็นตำรวจใหม่ คิดว่าตำรวจทุกคนต้องหันมาพัฒนาตนเอง และหันมามองตัวเองว่าเรามีศักยภาพแค่ไหน ในการปฏิบัติงานในสังคมปัจจุบัน เพราะการที่เราจะดูแลประชาชนหรือผู้อื่น เราต้องดูแลตัวเองว่าเราพร้อมแค่ไหนมีดีแค่ไหน ความรู้เป็นเกราะกำบังที่ดีที่สุดสำหรับสังคมปัจจุบัน โดยเฉพาะอาชีพตำรวจเป็นอาชีพที่ประชาชนพึ่งพา และคิดถึงเป็นอันดับแรกเวลามีปัญหา องค์กรหนึ่งองค์กรจะอยู่ได้และเป็นที่ยอมรับของสังคมบุคลากรในองค์กรเป็นกงจักรที่สำคัญในการขับเคลื่อนบุคลากรในองค์กรต้องมีความรู้ความสามารถ นอกจากตำรวจจะมีความรู้ความสามารถสูงแล้วตำรวจต้องมีคุณธรรมด้วย โดยเฉพาะเวลาปฏิบัติหน้าที่เพราะสังคมปัจจุบันเป็นสังคมที่เห็นแก่ตัวและมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องมาก ตำรวจต้องมีการวางตัวเป็นกลางและมีคุณธรรมประจำใจ ในปัจจุบันนี้องค์กร ตำรวจอาจได้รับควารมเสื่อมเสียและไม่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนเท่าที่ควร สาเหตุที่สำคัญ คือ มาจากบุคลากรในองค์กรทั้งสิ้น เราฐานะคนรุ่นใหม่เราต้องมองย้อนดูปัญหาและมาช่วยกันแก้ปัญหาให้กับองค์กรถึงแม้จะเป็นเพียงจุดเล็กๆ ถ้าทุกคนช่วยกันพัฒนาตนเองทางด้านความรู้ ด้านคุณธรรม และพัฒนาจิตใจ ของตนเองจุดเล็กๆ หลายจุด ก็สามารถเป็นเกราะกำบังให้กับองค์กรและแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในองค์กรจะลดน้อยลง

อุดมการณ์ในการณ์ปฏิบัติหน้าที่ของผมจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความจริงใจเป็นสิ่งสำคัญมากและและศึกษาค้นคว้าความรู้เพื่อพัฒนาตนเองท้องถิ่นและองค์กรมีคุณธรรมประจำใจ มีความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่และสังคม

ส.ต.ต.ปรีชาชัย ธรรมอนุสรณ์

ไม่มีอะไรมาก โดยตั้งแนวคิดนี้ตลอดตั้งแต่จำความว่า ข้าพเจ้าจะทำอะไรข้าพเจ้านั้นจะยึดถือคำอยู่ 3 คำ ตลอดเวลา คือ(1)อดทน (2) ตั้งใจ (3) ซื่อสัตย์ ซึ่ง 3 คำนี้ก็กลายเป็นอุดมการณ์ของข้าพเจ้านี้เอง ซึ่งอุดมการณ์ของข้าพเจ้า 3 คำนี้จะมีความหมายในตัวว่า

1.) อดทน ซึ่งอธิบายได้ดังนี้ ในการทำงานของผมนั้นถ้าไม่อดทนสิ่งที่ทำก็ไม่สำเร็จ ไม่ถึงเป้าหมายในสิ่งที่ทำ แล้วสิ่งที่ทำลงไป ก็ล้มเหลว ตลอดเวลาของการจะทำอะไรจะต้องมีความอดทน อดกลั้นอย่างแสนสาหัส ซึ่งทำลงไปนั้นจะเห็นผลเมื่อถึงปลายทางของการกระทำนั้นเพราะความอดทนมีรสขม แต่ผลของมันมรสตรงข้าม

2.) ตั้งใจ ซึ่งอธิบายได้ดังนี้ คำว่าตั้งใจนั้นก็คือตั้งจิตตั้งใจ ว่าเป้าหมายเดียวที่ทำนั้นต้องทำให้สำเร็จ จะล้าเหลวกี่ครั้งก็ต้องทำในสิ่งที่ตั้งใจทำนั้นให้สำเร็จให้บรรลุเป้าหมาย โดยถือคติย่อยในหัวข้อตั้งใจนี้ว่า ถึงไม่มีหนทางให้ฉันเดินฉันจะสร้างหนทางนั้นด้วยตัวของฉันเอง แล้วก็ไม่เคยกลัวความล้าเหลวเพราะความกลัวเป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้าแห่งชีวิต และคำว่า เป็นไปไม่ได้นั้นไม่เคยมีในคนที่มีคำว่าตั้งใจ

3.) ซื่อสัตย์ ซึ่งอธิบายได้ดังนี้ ซื่อตรง ซื่อสัตย์ จริงใจ คิดที่อยากจะให้ใครจริงใจ ซื่อสัตย์ กับเรา เราก็ต้องจริงใจ ซื่อสัตย์ กับเขาก่อน โดยไม่ต้องนึกถึงผลตอบรับและความซื่อตรง ซื่อสัตย์ จริงใจ นี้เอง ทำให้หลายครั้งที่ลำบาก จะมีคนมรช่วยเหลือโดยคิดไม่ถึง และไม่ได้ขอ ซึ่งก็คิดว่าคนมาช่วยเรานี้ ก็มาจากการกระทำของเราที่ผ่านมาหรืออาจเป็นเพราะศรัทธาในความซื่อสัตย์ ซื่อตรง จริงใจ นี้เอง ความศรัทธาจึงส่งผลนี้มาและเหนือสิ่งอื่นใดในชีวิตนี้ก็คิดว่า เรื่องงานนี้เราทำลงไปแล้วควรทำให้ดีที่สุดโดยไม่ต้องนึกถึงผลตอบกลับว่าเราจะได้อะไรกลับมาว่าเราทำแล้วจะได้กลับมากน้อยแค่ไหน ไม่ควรคิดแบบนี้

เพราะการกระทำที่ทำลงไปก็เปรียบดังเรา ไปสระน้ำใส่กันเมื่อเอาน้ำสระใส่กันแล้วย่อมต้องเปียกน้ำ ไม่มากก็น้อย สระน้ำร้อนย่อมร้อนในสิ่งที่ทำ สระใส่น้ำเย็นก็ได้รับในสิ่งที่เย็น ฉันใดก็ฉันนั้น งานหรือสิ่งที่ทำลงไปก็เช่นดั่งสระน้ำใส่กัน ทำอย่างไรผลก็เกิดแบบนั้น ซึ่งในชีวิตของข้าพเจ้านี้ก็ไม่มีพรสวรรค์อะไร เพียงแต่ข้าพเจ้ามีความอดทน ตั้งใจ ซื่อสัตย์ ซึ่งยึดถือเสมอพร้อมสำรวจข้อด้วยของตัวเองเสมอ จึงสามารถทำในสิ่งที่ตั้งใจทำได้

ปีนให้ไกล ปีนให้สูงเป้าหมายอยู่บนฟ้า จุดเล็งอยู่ที่ดาว"

ครับ นั่นก็คือแนวคิดและอุดมการณ์ในการปฏิบัติหน้าที่ของน้องๆ ทั้ง ๔ คนหลังจากออกไปรับราชการแล้ว ก็หวังว่าน้องๆ คงจะทำได้ตามแนวคิดและอุดมการณ์ที่ให้ไว้ตลอดไป

สุดท้ายนี้ผมขอนำภาพถ่ายต่างๆ ที่น้องๆ เขาถ่ายไว้ระหว่างฝึกงานมาฝากกันหน่อย รายละเอียดคลิกที่นี่ครับ

พ.ต.ท.สุพจน์ มัจฉา : รายงาน

โพสท์ใน ไม่มีหมวดหมู่ | ใส่ความเห็น

อำลา-อาลัย พี่ๆ ตำรวจ สภ.พาน(๓๐ ก.ย.๒๕๕๓)

วันนี้วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๓ ซึ่งในวงการราชการ-รัฐวิสาหกิจก็จะเป็นวันสุดท้ายแห่งชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ราชการของผู้ที่มีอายุครบ ๖๐ ปีหรือที่เรียกว่าการเกษียณอายุราชการ ห้วงตลอดระยะเวลาอันยาวนานที่บุคคลเหล่านี้ปฏิบัติหน้าที่ล้วนแล้วแต่ทำประโยชน์ไว้อย่างเอนกอนันต์สามารถเป็นตัวอย่างแก่น้องๆ รุ่นหลังๆ ได้เป็นอย่างดี ท่านเหล่านี้เป็นบุคคลที่มีคุณค่ายิ่งไม่เฉพาะแต่วงการของตัวเองเท่านั้นแต่ยังนับรวมถึงทั่วทุกวงการและต่อประเทศชาติได้อีกด้วย

สำหรับข้าราชการตำรวจสถานีตำรวจภูธรพานปีนี้มีผู้เกษียณอายุราชกาจำนวน ๔ คนประกอบด้วย (ภาพจากซ้ายไปขวา)
๑. ร.ต.ต.ศรีทน สุริโยทัย
๒. ร.ต.ต.ปรีชา วงษ์บุรินทร์พาน
๓. ร.ต.ต.มงกุฏ เถาว์โท
๔. ร.ต.ต.บุญมี ธรรมสาร

และนอกจากนี้ยังมีข้าราชการตำรวจของ สภ.พาน อีก ๓ นายที่เข้าร่วมโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดประกอบด้วย
๑. ด.ต.บุญมาก สุริยะ
๒. ด.ต.พันทวี ดีแก้ว
๓. ด.ต.ทอง เทิ้มลง

ตลอดระยะที่ทั้ง ๗ ท่านรับราชการตำรวจนั้นได้ทำคุณงามความดีไว้เป็นอย่างมาก เป็นที่รักของผู้บังคับบัญชา,เพื่อนร่วมงานรวมถึงพี่น้องประชาชนทั่วไป พวกเราตำรวจ สภ.พานที่ยังรับราชการอยู่จะขอเจริญรอยตามสิ่งที่พี่ๆ ทั้ง ๗ ท่านได้กระทำมาและขอให้พี่ๆ ทั้ง ๗ ใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างมีความสุขตลอดไป
โพสท์ใน ไม่มีหมวดหมู่ | ใส่ความเห็น